มาถึงคิวของหนังไลฟ์แอคชั่นจากเทพนิยายสุดคลาสสิกจากวอลต์ ดิสนีย์ ที่ทั้งโลกต่างรอคอยรอกันมาแสนนาน เพราะว่านี่เป็น “The Little Mermaid เงือกน้อยเผชิญภัย” ตำนานเงือกน้อยที่เป็นการท้ามากๆในงานสร้างในแบบคนแสดง เพราะจะต้องใช้เคล็ดลับพิเศษต่างๆเยอะมากในการสร้างโลกใต้ผืนน้ำ หากว่าพวกเราจะได้ยินข่าวคราวคำสบประมาทเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้แบบต่อเนื่อง
รีวิวหนัง The Little Mermaid
The Little Mermaid นางเงือกน้อยเสี่ยงอันตราย เกิดเรื่องราวของ แอเรียล บุตรีของราชาไทรตันแห่งโลกใต้มหาสมุทร ชีวิตของคุณต้องอยู่ใต้คำสั่งจากพ่อ แม้ว่าคุณฝันใฝ่ต้องการจะเป็นมนุษย์เดินดินและหลงรักเจ้าชายอีริค จนกระทั่งยอมแลกเสียงของเธอเพื่อรับมนตร์ให้แปลงร่างเป็นมนุษย์ 3 วัน และก็ทำภารกิจเพื่อพระราชโอรสจุมพิตรักแท้กับเธอให้ได้ แต่ว่ามันก็แลกเปลี่ยนมาด้วยความเจ็บที่เสียใจยิ่งกว่าจะการหลั่งน้ำตา
โดยในหนังฉบับนี้ก็ได้ผู้กำกับดีกรีรางวัลออสการ์แล้วก็ตัวบิดาหนังมิวสิคัล อย่าง “ร็อบ มาร์แชล” มานั่งเก้าอี้ดูแลงานสร้าง ที่จัดว่าเก็บเนื้อหาต่างๆเกี่ยวกับความเป็นแฟนตาซีแล้วก็มิวสิคัลได้อย่างถูกใจ หากว่ายังมีอีกหลายองค์ประกอบที่หนังเรื่องนี้ยังทำเป็นขาดๆเกินๆแล้วก็มอบรสชาติออกมาที่ยังไม่กลมกล่อมเท่าที่ควรนัก แม้กระนั้นมันก็ไม่ใช่หนังที่ตกต่ำอะไรเลยเหมือนกัน
จากที่เกริ่นไปข้างต้นนั้นว่า The Little Mermaid ที่กลายมาเป็นฉบับไลฟ์แอคชั่นนั้น ความท้าอยู่ที่งานโปรดักชั่นโดยแท้ ด้วยเหตุว่าการออกแบบโลกใต้ท้องสมุทรที่ถือได้ว่าฉากไฮไลต์หลักๆเกือบจะมากยิ่งกว่า 60% ของหัวข้อนี้เป็นงานที่ยากไม่น้อย ไมว่าจะเป็นรายละเอียดการเคลือนไหวของตัวละคร ไปจนกระทั่งการแสดงใต้น้ำกับผู้แสดงแอนิเมชั่น ทุกๆซีนมีความยากในระดับที่ต่างกันออกไป แม้กระนั้นหนังก็นับว่าพากเพียรเก็บรายละเอียดต่างๆเอาไว้ได้ดิบได้ดีที่สุด ถึงมันจะยังไม่ได้เพอร์เฟ็คและคมมากอะไรขนาดนั้น
จำต้องเห็นด้วยว่าโลกใต้สมุทรในหนัง The Little Merm aid เวอร์ชั่นนี้ ปะปนไปด้วยความสมจริงรวมทั้งความประหลาดพร้อมๆกันอย่างน่าปะหลาดใจ หลายๆฉากสร้างความตื่นตาตื่นใจก้าวหน้า แต่ว่าก็ยังมีอีกหลายๆฉากที่คิดว่าซ้ำแล้วซ้ำอีก แล้วก็เข้าสู่สูตรสำเร็จเดิมๆที่พวกเราเคยเห็นองค์ประกอบอะไรอย่างงี้ในหนังดิสนีย์เรื่องก่อนๆมาแล้ว ทั้งยังเนื้อหาที่ใส่เข้ามาประกอบผู้แสดงต่างๆก็ยังดูไม่ค่อยเหมือนจริงที่สุด เป็นการใส่ซีจีที่เหมือนทำให้รู้ว่าเป็นซีจี ยังไม่ถึงจุดที่ทำให้ขัดใจแม้กระนั้นก็แบบตะหงิดดวงใจได้อยู่เล็กน้อย
รีวิวหนัง รีวิวอนิเมะ The Little Mermaid
ในช่วงเวลาที่งานออกแบบฉากต่างๆบนโลกเหนือท้องน้ำนั้น ก็เต็มไปด้วยองค์ประกอบซ้ำเดิมจากที่พวกเราพบเห็นในหนังไลฟ์แอคชั่นของดิสนีย์มาก่อนเช่นกัน แทบไม่มีอะไรใหม่ แม้กระนั้นแอบเห็นด้วยอย่างไม่อ้อมค้อมเลยว่า The Little Merm aid เวอร์ชั่นนี้กลับกลายเป็นว่าเรื่องราวและก็สถานะการณ์ต่างๆบนบกนั้น กลับดูได้รื้นเริงมากยิ่งกว่าสตอปรี่ใต้ท้องมหาสมุทรเสียอีก
แม้ว่า The Little Merm aid จะรักษาและเคารพนับถือต้นฉบับในส่วนของพล็อตเรื่องมาแทบจะเป๊ะๆเลย แต่เมื่อนำมาเล่าเรื่องในแบบคนแสดงแล้วนั้น มันกลับดูเป็นเทพนิยายที่ฟุ้งเฟ้อเกินกำลังไปสักหน่อย บางทีอาจจะเพราะเหตุว่าจริตความเป็นเจ้าหญิง ความเพ้อฝันสำหรับในการตกหลุมรักเจ้าชาย สูตรสำเร็จเดิมๆที่ทั้งยังเชยแล้วก็ทั้งยังเชยไปแล้ว ยังถูกใส่เข้ามาในประเด็นนี้แค่เพียงอยากรักษาอรรถรสของต้นฉบับ ที่โชคร้ายไปหน่อย เพราะบางครั้งบางคราวมันก็ไม่ได้เวิร์กกับหนังเท่าใด
และก็กลับกลายเป็นว่าผู้แสดงแอนิเมชั่นประกอบในหนัง The Little Merm aid เปลี่ยนเป็น MVP ของหนังเรื่องนี้ ถึงจะมีเสียงวิบรรยายวิภาควิจารณ์เกี่ยวกับความแปลกๆของน้องที่มองสมจริงสมจังเกินไป แต่ว่าจำต้องสารภาพว่า เซบาสเตีนน, ฟลอนเดอร์ รวมทั้ง สกูทเทล เป็นค้างแรกเตอร์ที่มาปฏิบัติหน้าที่นางแบกให้กับเรื่องนี้โดยยิ่งไปกว่านั้น เป็นตัวสร้างสีสันและอรรถรสเจริญที่สุด อาจจำต้องขอบพระคุณทีมพากย์ดารา “เดวีด ดิกส์”, “เจคอบ เทรมเบลย์” และก็ “อควาฟิน่า” เป็นดรีมทีมที่ดี
แน่ๆว่าที่จำเป็นมากเลยเป็นองค์ประกอบความเป็นมิวสิคัล เวอร์ชั่นนี้ก็หยิบเอาเพลงดังๆจากอันเก่าคัฟเวอร์ใหม่กับมิติใหม่ๆที่เพราะรวมทั้งยอดเยี่ยมขึ้น แต่ยังแอบเสียดายอยู่น้อย เพราะว่าแปลงเป็นว่าเพลงต่างๆยังไม่ค่อยทรงอำนาจเท่าไรนัก นอกจากเพลง “Part of Your World” ที่ยังกังวานเสนาะหูผู้ชมอย่างไม่เสื่อมคลาย และก็อีกเพลงที่จัดว่าเซอร์ไพรส์เบาๆก็คือ “Kiss the Girl” ที่น่าจะเป็นซีนที่สะดุดตาที่สุดทั้งหมดของเรื่องนี้แล้ว
รีวิวหนัง The Little Mermaid
ตกลงว่าโดยภาพรวมแล้ว The Little Merm aid เงือกน้อยเผชิญภัย ฉบับคนแสดงของดิสนีย์ในปี 2023 บางทีก็อาจจะยังส่งผลลัพธ์มิได้ดังที่คาดหมายสักเท่าไหร่ แต่หนังก็มิได้เลวร้ายอะไร หลายส่วนประกอบยังไมได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังมีอีกหลายองค์ประกอบที่ถูกใจรวมทั้งสร้างความสนุกสนานอิ่มเอมจิตใจให้คนแฟนๆได้ดิบได้ดี ถึงแม้ว่าการเคารพนับถือต้นฉบับจะมีผลให้เค้าเรื่องออกจะล้าสมัยไปหน่อย นั่นเป็นจุดที่ทำให้เงือกน้อยผู้นี้..บางทีก็อาจจะยังแหวกว่ายเข้ามากลางใจคนดูยังไม่ได้ลึกมากสักเท่าไรนัก